กำหนดวันเดินทาง: 4-9 กุมภาพันธ์ 2566 (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) | 71,500.- บาท | |||||
วัน | โปรแกรมการเดินทาง | เช้า | เที่ยง | ค่ำ | โรงแรมที่พัก | |
1 | กรุงเทพ ฯ สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินชิโตเซ่
(เกาะฮอกไกโด) ( 23.50 – 08.40 ) |
– | – | ✈ | ||
2 | สนามบินชิโตเซ่ – โนโบริเบทสึ – บ่อโคลนจิโกคุดานิ (หุบเขานรก) – ทะเลสาบโทยะ – งาน Toyako Onsen Illuminated | – | O | O | Toyako Manseikaku
Hotel Lake side Terrace Or Similar |
|
3 | ภูเขาไฟอุสุ (เคเบิ้ล) – ฟาร์มหมีสีน้ำตาล – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วและกล่องดนตรี –ถนนซาไคมาจิ | O | O | O | SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU OR SIMILAR | |
4 | ขึ้นกระเช้าชมวิว ยอดเขา Moiwa – ศาลเจ้าฮอกไกโด – อาคารรัฐสภาเดิม ฮอกไกโด – ช้อปปิ้งทานูกิโคจิ | O | O | O | SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU OR SIMILAR | |
5 | ตลาดเช้าอาหารทะเล Nijo Market – โรงงานช็อคโกแล็ต Ishiya
พิพิธภัณฑ์เบียร์ ซัปโปโร |
O | O | O | SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU OR SIMILAR | |
6 | สนามบินชิโตเซ่ – กรุงเทพ ฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
( 10.00 – 15.50 ) |
✈ | – | – | ||
DAY 1 กรุงเทพ ฯ สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินชิโตเซ่ (เกาะฮอกไกโด) ( 23.50 – 08.40 ) | |||||
20.00 น. | พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิชั้นระหว่างประเทศขาออก (ชั้น 4) ณ เคาน์เตอร์ C (ใกล้กับประตูทางเข้าหมายเลข 2) พบกับเจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
*** หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาที และไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ดังนั้นผู้โดยสารจำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที *** |
||||
23.50 น. | ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG607
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง … เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) |
||||
DAY 2 สนามบินชิโตเซ่ – โนโบริเบทสึ – บ่อโคลนจิโกคุดานิ (หุบเขานรก) – ทะเลสาบโทยะ – งาน Toyako Onsen Illuminated | |||||
08.40 น. | ถึง สนามบินชิโตเซ่ ประเทศญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัย ผ่านพิธีศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ | ||||
นำท่านเดินทางสู่ “โนโบริเบทสึ” เมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนประจำภูมิภาคฮอกไกโดเพื่อนำท่านชมความแปลกของธรรมชาติที่ “จิโกกุดานิ” หรือ “หุบเขานรก” เป็นหุบเขาที่งดงามตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึเป็นบ่อโคลนเดือดที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นอุดมไปด้วยแร่กำมะถันซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพเผาผลาญกำมะถันแล้วพวยพุ่งขึ้นมารวมตัวกันจนเกิดเป็นแอ่ง พร้อมทั้งรอบ ๆ หุบเขามีต้นใบไม้หลายหลายที่กำลังเปลี่ยนสีสลับ แดง ส้ม เหลือง กันอย่างลงตัว อิสระให้ท่านได้เดินชมและบันทึกภาพตามอัธยาศัย (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) | |||||
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1) |
|
|||
หลังอาหารกลางวันนำท่านเดินทางสู่ “ทะเลสาบโทยะ” (Lake Toya) เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโทยะ เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เเละเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบ
รูปวงกลมที่มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร โดยเกิดจากการเป็นปากปล่องภูเขาไฟดั้งเดิมเเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบชิโกสึมากนักทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของเมืองโทยะและฮอกไกโด เข้าชมงานเทศกาล Toyako Onsen Illuminated จัดขึ้นบริเวณทะเลสาบโทยะ แบ่งเป็น 2 โซน คือโซนจัดแสดงไฟ light up บริเวณถนน และโซนอุโมงค์หลอดไฟ ซึ่งจะประดับไฟสีฟ้าขาวตามทาง โดยทั้งงานใช้หลอดไฟประดับรวมกันมากกว่า 300,000 ดวง สำหรับโซนอุโมงค์นั้น มีความยาวกว่า 70 เมตร ให้คุณได้รายรอบไปด้วยแสงไฟ งานนี้ถือเป็นงานประจำปี ที่จะจัดขึ้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน จนถึง เดือน มีนาคม เท่านั้น
|
|||||
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2) | ||||
ที่พัก : TOYAKO MANSEIKAKU HOTEL LAKE SIDE TERRACE
หลังอาหารไม่ควรพลาดประสบการณ์ “การอาบน้ำแร่ธรรมชาติ” เพื่อสุขภาพ / “โอนเซ็น” (Onsen) น้ำแร่สไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง
|
|||||
DAY 3 ภูเขาไฟอุสุ (เคเบิ้ล) – ฟาร์มหมีสีน้ำตาล – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วและกล่องดนตรี –ถนนซาไคมาจิ | |||||
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3) | ||||
นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศเป็นการ “นั่งกระเช้าไฟฟ้า” สู่ “ภูเขาไฟอุสุ” (Mt. Usuzan) (ในกรณีที่อากาศเอื้ออำนวย) ภูเขาไฟอุสุนั้นมีความสูง 733 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่ระเบิดบ่อยที่สุดในญี่ปุ่นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา โดยเกิดการปะทุขึ้น 4 ครั้ง คือ ปี 1910, 1944, 1945, 1977 และ 2000 ซึ่งทำให้เถ้าถ่านจำนวนมากพุ่งออกมาเป็นระยะทางไกลทำลายอาคารต่าง ๆ ในพื้นที่บางส่วนของเมืองโทยะโกะออนเซน และเนื่องจากมีการเฝ้าระวังติดตามและใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยทำให้คาดการณ์การปะทุของภูเขาไฟได้ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้คนอพยพออกจากเมืองได้ทันจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เมื่อท่านนั่งอยู่บนกระเช้าจะได้เห็นภาพสีสันที่ตัดกันได้อย่างเหลือเชื่อระหว่างสีน้ำเงินครามของผืนน้ำและท้องฟ้ากับสีแดงของภูเขาไฟลูกเล็กที่เต็มไปด้วยไอควัน อิสระให้ท่านได้ชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ในอีกรูปแบบหนึ่ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล” เป็นพันธุ์หมีที่หาได้ยากในปัจจุบันเพราะหมีสีน้ำตาลนั้นใกล้สูญพันธุ์แล้ว ซึ่งจะพบได้เฉพาะในเกาะฮอกไกโด เกาะซาคาริน และหมู่เกาะคูรินเท่านั้น ภายในศูนย์อนุรักษ์ฯ จึงมีการสร้างบรรยากาศที่จำลองคล้ายคลึงกับธรรมชาติสำหรับหมีสีน้ำตาลที่อยู่อาศัยมากกว่าร้อยตัว ให้ท่านได้ตื่นตากับความน่ารักของน้องหมีตัวเล็กที่มีอายุตั้งแต่สองขวบจนถึงหมีตัวโตอายุสิบสองขวบ และประหลาดใจกับหมีแสนรู้ที่ทำท่าทางตลก ๆ ให้ท่านชม อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของเหล่าหมีสีน้ำตาล พร้อมบันทึกภาพความน่ารักตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่าน นำท่านชมความสวยงามของทะเลสาบ “โทยะ” โดยการล่องเรือชมทะเลสาบโทยะโดยเรือที่ให้บริการนั้นจะมีขนาดใหญ่ที่จุคนได้กว่า 100 คน การล่องเรือ 1 รอบ ใช้เวลา 40-50 นาที บนเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องกันลมและติดฮีทเตอร์สำหรับหน้าหนาวอีกด้วย |
|||||
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4) | ||||
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ “เมืองโอตารุ” ภายในเมืองโอตารุมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกแบบวิคตอเรียนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่หลายแห่ง ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนมาท่องเที่ยวยุโรป ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมือง ที่สามารถมาเยี่ยมชมได้ทั้งหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมอย่างสวยงาม และในฤดูอื่น ๆ ตลอดทั้งปี … เพื่อนำท่านเดินทางสู่ “คลองโอตารุ” (Otaru Canal) ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญโดยริมคลองแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอตารุ มีประวัติความเป็นมายาวนาน เพราะในอดีตเป็นท่าเรือที่คึกคักในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เรือลำใหญ่จะถ่ายสินค้าลงเรือลำเล็กและลำเลียงไปตามคลอง ต่อมาเมื่อมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาขึ้น ก็สามารถขนส่งสินค้าผ่านเรือลำใหญ่ ต่อมาช่วงปี ค.ศ.1980 ที่บริเวณคลองแห่งนี้ได้รับการบูรณะให้สวยงามขึ้นจนน่าเที่ยวขนาดนี้ แถบโกดังริมคลองก็เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ช่วงกลางคืนนี่เรียกว่าเป็นไฮไลต์สำหรับการท่องเที่ยวเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชื่นชมความงดงามของศิลปะที่ “พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วและกล่องดนตรี” (Otaru Music Box Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในเรื่องกล่องดนตรีมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เมื่อก้าวเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ท่านจะได้พบกับกล่องดนตรีมากมายกว่า 3,000 ชิ้น ตั้งโชว์เรียงรายและจำหน่ายให้แก่ผู้เข้าชม โดยกล่องดนตรีมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ดีไซน์แบบเบสิคอย่างรูปสัตว์ต่าง ๆ ไปจนถึงดีไซน์สุดเก๋อย่างอาหาร ชูชิ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมสามารถทำกล่องเพลงของตัวเองที่มีชิ้นเดียวบนโลก
โดยสามารถเลือกเมโลดี้เพลงและกล่องเพลงได้เองอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชมสินค้าที่ผลิตจากเครื่องแก้วต่าง ๆ ติดไม้ติดมือฝากคนทางบ้าน จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “ถนนซาไกมาจิ” (Sakaimachi Street) เป็นถนนที่ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ โดยไม่ไกลจากคลองโอตารุ นับเป็นถนนที่มีเสน่ห์และเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์มาก ๆ เนื่องจากตัวถนนเองได้รับการอนุรักษ์มาอย่างดีเยี่ยมจนกลายมาเป็นถนนแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอตารุอย่างในปัจจุบันนี้ ในระหว่างช่วงพัฒนาฮอกไกโดปลายยุค 1800 ต้นยุค 1900 อาคารต่าง ๆ เป็นแบบสไตล์ตะวันตก ปัจจุบันได้รับการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ซัปโปโร เมืองหลวงของจังหวัด ฮอกไกโด
|
||||
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (5) | ||||
ที่พัก : SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU หรือเทียบเท่า | |||||
DAY 4 ขึ้นกระเช้าชมวิว ยอดเขา Moiwa – ศาลเจ้าฮอกไกโด – อาคารรัฐสภาเดิม ฮอกไกโด – ช้อปปิ้งทานูกิโคจิ | |||||
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6) | ||||
หลังรับประทานอาหาเช้า นำท่านเดินทางขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ไปชมวิวบนยอดเข้า Moiwa ซึ่งอยู่ใจกลางของเมืองซับโปโร เป็นยอดเขาสูง 531 เมตรนี้มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรได้ทั้งเมือง จุดชมวิวบนยอดเขานี้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ยอดเขาก็จะพบกับทิวทัศน์อันงดงามอยู่ตรงหน้า เราสามารถชมวิวได้ทุกทิศทางแบบ 360 องศา จึงมองเห็นเมืองซัปโปโรซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 2 ล้านคนไปจนถึงเทือกเขาที่ตั้งอยู่ที่ฝั่งตรงกันข้าม นอกจากนั้นบนยอดเขายังมี “ระฆังแห่งความสุขและแม่กุญแจแห่งความรัก” ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตแล้วก็ยังมีร้านอาหารและท้องฟ้าจำลองอยู่ด้วย การที่นักท่องเที่ยวสามารถสนุกไปกับกิจกรรมได้หลายประเภทก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ | |||||
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7) | ||||
บ่าย | หลังอาหารกลางวันนำท่านเดินทางสู่ “ศาลเจ้าฮอกไกโด” (Hokkaido Shrine) หรือเดิมชื่อ “ศาลเจ้าซัปโปโร” ศาลเจ้าฮอกไกโดสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1869 ภายหลังจักรพรรดิเมจิประกาศว่าเทพเจ้าผู้บุกเบิกทั้ง 3 องค์ได้รับการประดิษฐานเพื่อเชิดชูจิตวิญญาณของผู้บุกเบิก โดยผู้ออกแบบเมืองซัปโปโรในสมัยนั้นได้เลือกสวนมารุยามะ (Maruyama) เป็นที่ตั้งของศาลเจ้า ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน และอีกด้านหนึ่งเลือกเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮอกไกโดเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งชินโต เพื่อจะได้รับพลังแห่งจิตวิญญาณแก่ผู้บุกเบิก ปัจจุบันได้ประดิษฐานเทพเจ้า
จำนวนสี่องค์เพื่อคุ้มครองชาวฮอกไกโดให้มีความสงบสุข ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอพรในวันสำคัญต่าง ๆ อาทิเช่น วันปีใหม่ การจัดงานแต่งงาน อีกทั้งศาลเจ้าฮอกไกโดยังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามและสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู นำท่านเดินทางสู่ “อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่า” (Former Hokkaido Government Office Building) เป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 สถาปัตยกรรมของอาคารนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองซัปโปโร อาคารมีเอกลักษณ์เฉพาะก็จากการที่มีสไตล์การสร้างแนวอิฐแดง ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่นเรียงรายด้วยต้นซากุระและต้นแปะก๊วย เรียกได้ว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิบริเวณแถวอาคารนี้สวยไม่แพ้ที่ไหนในเมืองเลย จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “ย่านทานุกิโคจิ” (Tanuki Koji) ถือว่าเป็นย่านช็อปปิ้งชื่อดังของเมืองซัปโปโรและแหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโดไปฝากคนทางบ้าน โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด ภายในย่านมีขายของที่ระลึก ขนม ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ และร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมายในย่านนี้ |
||||
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (8) | ||||
ที่พัก : SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU หรือเทียบเท่า | |||||
DAY 5 ตลาดเช้าอาหารทะเล Nijo Market – โรงงานช็อคโกแล็ต Ishiya– พิพิธภัณฑ์เบียร์ ซัปโปโร | |||||
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
|
||||
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดปลา Nijo Market เมื่อกล่าวถึงฮอกไกโดแล้วคือตัวแทนของ “ความอร่อย” ของฮอกไกโดจะมารวมกันที่ซัปโปโร และที่ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการกินของซัปโปโรคือตลาดกลางขายส่งเมืองซัปโปโร ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ข้างๆ จะมี “ตลาดโจไก และศูนย์กลางตลาดขายส่งเมืองซัปโปโร” ที่คนทั่วไปจะสามารถสนุกสนานกับการรับประทานอาหาร หรือจับจ่ายซื้อของได้ และจะคับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวและชาวซัปโปโรที่มาซื้อของทะเลหรือพืชผักผลไม้จากที่ต่างๆ ของฮอกไกโด “ตลาดปลานิโจ” ที่อยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรก็มีชื่อเสียงในฐานะเป็นตลาดที่มีมาตั้งแต่สมัยเมจิ หากต้องการชิมอาหารอร่อยตามฤดูกาลของฮอกไกโดอย่างง่ายๆ หละก็ เชิญที่ตลาดได้เลย ขอเชิญเพลิดเพลินไปกับการชิมข้าวหน้าอาหารทะเลและซูชิ ที่ใช้อาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งซื้อมาในตอนเช้าอย่างเต็มที่ และขอเชิญรรับประทานปูเป็นๆ ในอ่างที่นำมาลวกน้ำร้อน … เป็นความอร่อยที่มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น | |||||
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10) | ||||
บ่าย | นำท่านเข้าชม โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมี ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่ สุดของที่นี้คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทาน หรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้ นอกจากนี้ท่านจะได้เลือกซื้อช็อคโกแลตที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ และท่านก็ยังจะได้ชมประวัติความเป็นมาของโรงงาน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ฮอกไกโดนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเบียร์ครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น เมืองซัปโปโรจึงเป็นแหล่งผลิตที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นยี่ห้อที่นิยมที่สุดในประเทศ ซึ่งมีการกลั่นเบียร์ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1877 มาจนถึงปัจจุบัน และยังส่งออกไปทั่วโลกอีกด้วย ด้านในของพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของเบียร์ในญี่ปุ่น และกระบวนการขั้นตอนการผลิตเบียร์ ทั้งความละเอียดของข้อมูลและการจัดแสดง ที่น่าจะถูกใจหลายคนแบบสุดก็ตรงบริเวณด้านหลังนิทรรศการมีให้ชิมเบียร์ฟรีอีกด้วยถ้าเดินทางเพลินจนเหนื่อยแล้วอยากหาที่นั่งชิลๆพร้อมเต็มพลังและเบียร์ที่ชิมมันน้อยเกินไป ก็สามารถเดินไปใกล้ๆกับตัวพิพิธภัณฑ์ได้ เนื่องจากเป็นสวนเบียร์ซัปโปโร(Sapporo Beer Garden) ประกอบด้วยร้านอาหาร 2 ร้าน คือ Garden Grill และ Genghis Kan Hall มีบรรยากาศสบายๆกับการดื่มเบียร์ และรับประทานบาร์บีคิวเนื้อแกะ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่น
|
||||
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (11) | ||||
ที่พัก : SAPPORO EXCEL HOTEL TOKYU หรือเทียบเท่า | |||||
DAY 6 สนามบินชิโตเซ่ – กรุงเทพ ฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ( 09.55 – 15.10 ) | |||||
06.00 น. | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)
(กรุณาตรวจสอบสัมภาระให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมเดินทางไปสนามบิน) |
||||
07.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ “สนามบินชิโตเซ่” | ||||
10.00 น. | เดินทางจาก สนามบินชิโตเซ่ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 671 | ||||
15.50 น. | ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
หมายเหตุ : รายการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, สายการบินเป็นต้น |