Dubai - United Arab Emirates
Time | Description |
---|---|
04.30 | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ Prime Destination Travel คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก |
06.45 | ออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 351 |
10.35 | เดินทางถึงสนามบินดูไบ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
12.00 | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
13.00-18.00 | จากนั้นนำท่านผ่านชมพระราชวังท่านชีค (Shiekh Palace) ตื่นตาตื่นใจกับพระราชวังสุดอลังการของครอบครัว Shiekh Al Maktoum อันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีความร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดและบรรดาเหล่านกยูง ผ่านชม New Palace ซึ่งเป็นพระราชวังแห่งใหม่ของครอบครัว Shiekh Al Maktoum ที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ถ่ายรูปกับสุเหร่าจูไมร่า (Jumeirah Mosque) สุเหร่าคู่บ้านคู่เมืองของดูไบ สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในนครดูไบ นำท่านถ่ายรูปบริเวณชายหาด Jumeirah Beach สถานที่ตากอากาศยอดนิยมของดูไบ แวะถ่ายรูปด้านนอกกับโรงแรม Burj Al Arab โรงแรมสุดหรูระดับ 7 ดาว รูปทรงคล้ายเรือใบที่งดงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ริมอ่าวอาหรับ เป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีที่มีชื่อเสียงชาวตะวันออกกลาง ถือเป็นสถานที่ที่ทุกคนใฝ่ฝันจะมีโอกาสเข้าไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต จากนั้นชม Medinat Jumeirah Souk หรือเรียกว่า เวนิสแห่งดูไบ เป็นตลาดติดแอร์ ตั้งอยู่ในส่วนเดียวกับโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว Mina Al Salam ของตระกูล Al Maktoum ออกแบบและตกแต่งเป็นศิลปะพื้นเมืองแบบอาหรับคลาสสิก ภายในมีสินค้าระดับ Premium มากมาย อาทิ ของที่ระลึก พวงกุญแจ ขวดทราย พรมอิหร่าน หัวน้ำหอม โคมไฟ ของประดับตกแต่งบ้าน ขนมหวาน และถั่วรสช็อกโกแลต เป็นต้น |
20.00 | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง นำท่านสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN หรือเทียบเท่า |
Time | Description |
---|---|
07.00 | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00-12.00 | นำท่านเดินทางสู่กรุงอาบูดาบี้ (Abu dhabi) ที่มีความเขียวขจีท่ามกลางตัวเมืองที่ทันสมัย จึงเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า Garden of Gulf และได้รับการย่องว่าเป็นสวรรค์แห่งทะเลทรายอีกด้วย นำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญ ๆ ของเมือง ตลอดจนการสร้างบ้านเรือนที่มีความสวยงาม และเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมือง แม้จะตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง นำท่านชม Sheikh Zayed bin Sultan al Nahyan Grand Mosque สุเหร่าที่งดงามที่สุดของ U.A.E. มีความใหญ่โตเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นสุเหร่าประจำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ท่าน Sheikh สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต ใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งหมด 10 ปี ให้ท่านได้ชมพรมลายดอกไม้ผืนใหญ่ และโคมไฟ (Chandelier) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราคาราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทำด้วยทองคำและทองแดง ***การเที่ยวชมมัสยิด ต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ห้ามสวมกางเกงขาสั้นหรือเสื้อกล้าม ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความยาวคลุมถึงระดับข้อมือและข้อเท้า ปกปิดไหล่และทรวงอกให้มิดชิด ผู้หญิงจะต้องมีผ้าคลุมผม และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้ามัสยิด*** นำท่านแวะถ่ายรูป Ferrari World และมีเวลาให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกที่เป็นแบรนด์เฟอร์รารี่ จากนั้นแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ จุดชมวิว ชิคาโกบีช กับชายทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ที่ท่าน Sheikh Al Nayan สร้างขึ้นมาเป็นของขวัญแก่ชาวเมือง |
12.00 - 13.00 | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
13.00 - 18.00 | นำท่านเดินทางสู่นครดูไบ (Dubai) ถือเป็นเมืองแห่งความมหัศจรรย์ เพราะจากเดิมที่เป็นดินแดนทะเลทรายอันแห้งแล้ง ก็ถูกปรับเปลี่ยนกลายมาเป็นดินแดนแห่งความมั่งคั่ง ทั้งในด้านการค้า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของตะวันออกกลาง เห็นได้จากเหล่าตึกสูงระฟ้าอันทันสมัยที่ผุดขึ้นทั่วนครดูไบ จากนั้นนำท่านสู่ห้างดูไบ (Dubai Mall) ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ภายใน ให้ท่านได้ถ่ายรูปหน้าตู้ปลา ที่มีขนาดใหญ่กว่าคนสิบคนยืนเรียงกัน อิสระในการเลือกซื้อของฝาก สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กระเป๋าถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกีฬา เป็นต้น และในเวลา 18.00-24.00 น. ของทุกวัน ท่านจะได้ชมการแสดง “น้ำพุแห่งดูไบ” เป็นน้ำพุเต้นระบำอันสวยงามวิจิตร อยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา ที่เป็นศูนย์กลางของนครดูไบ ถือเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้ โดยรอบถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียงมากมาย สิ่งพิเศษของน้ำพุแห่งดูไบนี้ คือ จะใช้ไฟทั้งสิ้น 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงประกอบดนตรี ครั้งละประมาณ 5 นาที โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 7.2 พันล้านบาท ให้เวลาท่านได้ถ่ายรูปคู่กับ “เบิร์จคาลิฟา” Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 828 เมตร มีทั้งหมด 160 ชั้น ออกแบบโดยนายเอเดรียน สมิธ สถาปนิกจากชิคาโก ซึ่งคณะจะได้มีโอกาสขึ้นลิฟท์ที่มีความเร็วที่สุดในโลกคือ 18 เมตร ต่อวินาที หรือ 65 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ไปถึงชั้น 124 เพื่อชมวิวจากของนครดูไบได้ทั่วทุกทิศที่สวยงาม โดยตึกนี้ออกแบบตบแต่งภายในโดย Giorgio Armani (รอบเวลาขึ้น อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม) |
20.00 | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร นำกลับสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN หรือเทียบเท่า |
Time | Description |
---|---|
07.00 | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00–12.00 | นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ดูไบ (Dubai Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในตะวันออกกลาง สร้างเมื่อศตวรรษที่ 19 บูรณะครั้งล่าสุดปี 1970 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เช่น การค้นพบงานศิลปะภายในหลุมฝังศพที่ Al Qusais ซึ่งมีอายุมากกว่า 4,000 ปี ประทับใจกับการบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับโบราณผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ หลังอาหารกลางวัน นำท่านสู่ Mall of the Emirates เป็นห้างขนาดใหญ่ มีโรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านต่างๆ มีเวลาให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าแฟ่ชั้นมากมาย หรือท่านจะเข้าเล่นที่ Ski Dubai หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเลือกเล่นระหว่างสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลหิมะในสวนหิมะ |
12.00–13.00 | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ที่พัก เพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายพร้อมตะลุยทะเลทราย |
16.00 | นำท่านเดินทางไปทัวร์ทะเลทราย (Dune Safari & BBQ Dinner) (อย่าลืมเสื้อแจ็คเกต แว่นตากันแดด รองเท้าฟองน้ำ ติดตัวไปด้วย) นำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) ไปทัวร์ทะเลทราย ท่านจะได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์อันแปลกใหม่ นั่งรถตะลุยไปบนเนินทรายทั้งสูงและต่ำสลับกันไป (Sand Dune) หมายเหตุ ท่านที่เมารถ กรุณาทานยาแก้เมาล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือควรแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบก่อนไปทัวร์ทะเลทราย ทางทัวร์จะไม่รับผิดชอบ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรงนั่งรถไป Dune Safari โดยเด็ดขาด *****สำหรับท่านที่ไม่ร่วมเดินทาง Dune Safari ท่านต้องรอคณะอยู่ที่โรงแรม โดยทางบริษัท ไม่สามรถคืนค่าทัวร์ให้ได้ รวมทั้งอาหารมื้อค่ำ***** |
17.00-21.00 | จากนั้นให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในแคมป์กระโจมแบบอาหรับ ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกของพระอาทิตย์ตกดินที่แสนสวยงาม และสัมผัสชีวิตแบบชาวพื้นเมือง (เบดูอิน) อาทิ การสวมชุดพื้นเมืองชาวอาหรับ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก การเพ้นท์มือแบบอาหรับ (Henna Tattoo) ลองสูบ มารากู กลิ่นผลไม้ (Shi Sha) ชมโชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) ซึ่งเป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก รวมถึงสนุกสนานกับการขี่อูฐ นำกลับสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN หรือเทียบเท่า |
Time | Description |
---|---|
07.00 | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00–12.00 | จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง Dubai Creek เป็นทะเลที่สร้างขึ้นโดยการขุดเข้ามาในชายฝั่ง ซึ่งแบ่งนครดูไบออกเป็น 2 ส่วน คือ Deira Dubai และ Bur Dubai มีความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร มีท่าจอดเรือ 8 ท่า ให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปกับทัศนียภาพสองฟากฝั่งของแม่น้ำ Creek ตามอัธยาศัย ให้ท่านได้ถ่ายรูปในย่าน Bastakiya และนำท่านนั่งเรือ Abra Ride สัมผัสมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมผ่านวิถีชีวิตสองฝั่งน้ำของแม่น้ำ Creek จากนั้นเดินสู่ตลาดเครื่องเทศ (Gold & Spicy Souk)และตลาดทอง (Gold Souk) เป็นตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Jewelry ทุกประเภท เช่น มุก อัญมณีต่าง ๆ |
12.00 - 13.00 | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
13.00 - 16.00 | นำท่านขึ้นรถไฟ Monorail เข้าสู่ The Palm Project เป็นสุดยอดโครงการของ U.A.E. โดยการถมทะเลให้เป็นเกาะเทียม สร้างเป็นรูปต้นปาล์ม จำนวน 3 เกาะ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้นต์ ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงานต่าง ๆ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก ให้ท่านตื่นตาตื่นใจกับความความยิ่งใหญ่ของโรงแรม Atlantis อันหรูหราอลังการ |
17.00 | เดินทางสู่สนามบินดูไบ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน Duty Free เพลิดเพลินกับสินค้าแบรนด์เนม และน้ำหอมยี่ห้อดังมากมาย |
20.15 | ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK350 |
Time | Description |
---|---|
05.20 | ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ |